Research & Development – ความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมปะเก็นและวัสดุยางของ Chang Rubber

ที่ Chang Rubber เราให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างจริงจัง เพราะเรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านปะเก็น (Gasket) และวัสดุยางอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสูงสุด เราเชื่อว่าประสิทธิภาพของวัสดุยางและระบบซีลในงานอุตสาหกรรมต้องอาศัยการทดสอบที่แม่นยำ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการปรับปรุงสูตรวัสดุอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์งานเฉพาะทางและสภาพแวดล้อมที่หลากหลายของโรงงานทั่วโลก
ศูนย์ R&D ของเราทำหน้าที่ในการ พัฒนาวัสดุใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพของสูตรยาง ปรับปรุงคุณสมบัติปะเก็น และทดสอบชิ้นงานตามมาตรฐานสากล เพื่อให้มั่นใจว่าทุกผลิตภัณฑ์ของ Chang Rubber มีคุณภาพที่ดีที่สุดทั้งด้านความทนทาน ความปลอดภัย และความสามารถในการซีลที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาวะรุนแรง
⭐ การทดสอบวัสดุและปะเก็นตามมาตรฐานอุตสาหกรรม
Chang Rubber ใช้เครื่องมือทดสอบหลายชนิดเพื่อประเมินประสิทธิภาพของวัสดุยางและปะเก็นอย่างละเอียด โดยแต่ละประเภทการทดสอบมีบทบาทสำคัญดังนี้:
1. FTIR Analyzer – วิเคราะห์ส่วนประกอบทางเคมีของวัสดุยาง
เครื่อง FTIR ใช้ในการตรวจสอบชนิดของโพลีเมอร์ เติมแต่ง และสารประกอบในเนื้อยาง เพื่อระบุความถูกต้องของสูตรและตรวจสอบความเสถียรของวัสดุในระยะยาว เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำทางเคมี เช่น งานอาหาร ยา และอุตสาหกรรมเคมี
2. Hardness Tester – ทดสอบค่าความแข็งของยาง (Shore A Hardness)
ค่าความแข็งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกปะเก็น เพราะมีผลต่อการซีลและแรงบีบอัด ทีม R&D ของเราใช้เครื่องทดสอบที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ลูกค้าได้รับวัสดุที่สอดคล้องกับสเปกงานจริง
3. Tensile Strength Tester – ทดสอบแรงดึงและการฉีกขาดของยาง
การทดสอบนี้ช่วยประเมินความทนทานของยางต่อแรงดึง แรงฉีก และความยืดหยุ่น ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับงานที่เจอแรงสั่นสะเทือนหรือแรงกดอัดสูง เช่น ระบบท่อและเครื่องจักรหมุน
4. Abrasion Tester – ทดสอบการเสียดสีของวัสดุยาง
อุปกรณ์ Abrasion Tester ถูกใช้เพื่อวัดความสามารถของวัสดุยางในการทนต่อการขัดสี ค่าเสียดสีต่ำหมายถึงวัสดุทนทานต่อการสึกหรอ เหมาะกับงานที่ต้องสัมผัสพื้นผิวแข็งเป็นประจำ เช่น ยางรองเครื่องจักร หรือซีลที่รับแรงเสียดสีสูง
⭐ การพัฒนาสูตรวัสดุยางและปะเก็นสำหรับงานเฉพาะทาง
ทีมวิจัยของ Chang Rubber ทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อออกแบบสูตรยางและวัสดุปะเก็นที่สามารถใช้งานได้ตรงตามความต้องการ เช่น:
✔ วัสดุทนน้ำมัน (NBR, Viton/FKM)
เหมาะสำหรับปั๊มน้ำมัน วาล์ว ไฮดรอลิก และระบบปิโตรเคมี
✔ วัสดุทนความร้อนสูง (Silicone, EPDM, PTFE)
เหมาะสำหรับงานเตาอบ งานระบบไอน้ำ หรือท่อความร้อน
✔ วัสดุทนสารเคมีรุนแรง (PTFE, FKM, Chemical Resistance Non-Asbestos)
ใช้ในโรงงานเคมี โรงงานยา หรือกระบวนการผลิตที่ต้องการความเสถียรสูง
✔ วัสดุ Food Grade (FDA Approved)
เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องมือแพทย์
ทุกสูตรถูกทดสอบตามมาตรฐานก่อนนำไปใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบซีลมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ 100%
⭐ การปรับปรุงกระบวนการผลิตด้วย R&D
นอกจากการพัฒนาวัสดุแล้ว ทีม R&D ของ Chang Rubber ยังเน้นการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตปะเก็นด้วย เช่น:
- เพิ่มความแม่นยำของเครื่อง CNC Cutting
- พัฒนาเทคนิคการตัดเพื่อลดครีบและความผิดพลาด
- ควบคุมความหนาของวัสดุให้สม่ำเสมอทั้งแผ่น
- ปรับคุณภาพผิวงานให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละอุตสาหกรรม
ผลลัพธ์คือ ลูกค้าจะได้รับปะเก็นที่ มีความแม่นยำสูง, คุณภาพสม่ำเสมอ, ทนทาน และปลอดภัยต่อการใช้งานจริง
⭐ ความมุ่งมั่นของ Chang Rubber ต่อการพัฒนานวัตกรรมในอนาคต
เป้าหมายของเราไม่ใช่เพียง “ผลิตปะเก็นให้ได้ตามสเปก”
แต่คือ:
- การสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมซีลในประเทศไทย
- การพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- การยกระดับเทคโนโลยีการผลิตให้เทียบเท่าระดับสากล
- การออกแบบปะเก็นและซีลที่รองรับเครื่องจักรยุค Industry 4.0
R&D ของ ChangSeal จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
⭐ R&D คือรากฐานคุณภาพของ Chang Rubber
ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่สูตรยาง กระบวนการทดสอบ ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพในผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น ChangSeal จึงสามารถส่งมอบปะเก็นและแผ่นยางที่เชื่อถือได้ให้กับลูกค้าทั่วประเทศและต่างประเทศ
Chang Rubber จะยังคงพัฒนานวัตกรรมด้านงานซีลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่เปลี่ยนแปลงและซับซ้อนของอุตสาหกรรมยุคใหม่











